Forex คืออะไร ? Forex หรือ Foreign Exchange เป็นตลาดแลกเปลี่ยนอัตราค่าเงิน แม้ว่าจะดูเหมือนน่ากลัวแต่ตลาด Forex ถือว่าเป็นตลาดกการเงินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
Forex หรือ Foreign Exchange จะเกี่ยวเนื่องกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินของแต่ละประเทศและจะแสดงในรูปของค่าสกุลเงินต่างๆ เช่น USD/JPY = 134.37 จะหมายความว่า 1 US Dollar จะมีค่าเท่ากับ 134.37 Japan Yen การแข็งค่าและอ่อนค่าของค่าเงินต่างๆ ในตลาดจะส่งผลประโยชน์กับนักเทรด Forex โดยนักเทรดจะเห็นโอกาสในการทำกำไรในมูลค่าของค่าเงินที่กำลังอ่อนค่าและมีแนวโน้มว่าจะแข็งค่าขึ้นในอนาคตโดยการช้อนซื้อค่าเงินนั้นๆ และขายในอนาคตเมื่อค่าเงินนั้นๆ แข็งค่าขึ้นตามที่คาดการณ์เอาไว้
Forex คืออะไร ? หลักการของ Forex จริงๆ แล้วไม่ซับซ้อน แต่อาจจะต้องอาศัยความรู้ในด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomics) ของแต่ละประเทศ เพราะนักเทรด Forex จะต้องเข้าใจในหลักเศรษฐศาสตร์ที่จะส่งผลกับค่าเงินโดยตรง รวมถึงติดตามข่าวสารด้านเศรษฐกิจของแต่ละประเทศทั่วโลก สอนเทรด Forex สำหรับมือใหม่
Forex VS หุ้น? เหมือนและต่างกันอย่างไร?
Forex จะมีส่วนคล้ายกับหุ้นตรงที่นักเทรดจะซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ โดยหวังว่าจะทำการขายทำกำไรในอนาคตเมื่อสินทรัพย์นั้นมีค่ามากขึ้น แต่ในส่วนของ Forex อาจจะไม่เหมาะกับการถือระยะยาวเหมือนหุ้นเท่าไหร่นัก เพราะอัตราเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นของมูลค่าต่อปี (เมื่อเทียบกันระหว่างสกุลเงินแต่ละสกุล) จะไม่ได้มากเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น Forex อาจจะเหมาะกับการทำกำไรระยะสั้นและเหมาะสำหรับนักเทรดสายเทคนิค (Technical trader) มากกว่า
นอกจากนั้น มูลค่าของคุณจะแปรผันตามมูลค่าของธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งโดยตรง แต่ Forex ซึ่งเป็นค่าเงินจะแปรผันตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินของแต่ละประเทศที่ออกสกุลเงินนั้นๆ
Forex VS คริปโต เหมือนและต่างกันอย่างไร?
แม้จะดูเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนค่าเงินเหมือนกัน แต่คริปโตจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ได้ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการอย่างถูกต้องตามกฏหมายในแต่ละประเทศ (ยกเว้นบางประเทศที่อาจจะเริ่มประกาศใช้บิตคอยน์ในการชำระหนี้สินอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เช่น ประเทศเอลซัลวาดอร์) ดังนั้นมูลค่าของคริปโตจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจหรือนโยบายของประเทศใดๆ เหมือนค่าเงิน แต่จะขึ้นอยู่กับมูลค่าแท้จริงของโปรเจคคริปโตนั้นๆ

มูลค่าของค่าเงินและปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงิน
เงินคือสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แต่ละประเทศจะมีสกุลเงินของตัวเอง โดยวัตถุประสงค์หลักของค่าเงินก็คือการใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ รวมถึงการชำระหนี้สินระหว่างผู้คนในประเทศนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบระหว่างประเทศ มูลค่าของเงินก็เป็นได้ตามกฎอุปสงค์และอุปทาน (Demand & supply) เหมือนกับสินทรัพย์และสินค้าอื่นๆ กล่าวคือค่าเงินจะสามารถปรับค่าขึ้นลงได้ เมื่อเงินเพิ่มมูลค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ก็จะเรียกว่าการแข็งค่า และเมื่อมีค่าน้อยลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นก็จะเรียกกว่าการอ่อนค่า ยกตัวอย่างเช่น ในอดีต เงินบาทเคยแข็งค่าขึ้นไปกว่า 40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ในปัจจุบัน ค่าเงินบาทจะอยู่ที่ราวๆ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าอ่อนค่ากว่าอดีตมาก
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินก็จะมีหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ดุลการค้าและนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางหรือ FED ซึ่งนโยบายเหล่านี้ก็จะส่งผลต่ออุปสงค์ของสกุลเงินต่างๆ ไปด้วย
ใครเหมาะกับตลาด Forex? การจะเป็นนักเทรด Forex ควรจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
จะสังเกตว่าในตลาด Forex ผู้ที่เข้ามาเก็งกำไรในตลาดจะไม่ใช่นักลงทุน เพราะ Forex ไม่เหมาะกับการลงทุนระยะยาวเท่าไหร่ ตรงกันข้ามกับหุ้น การถือยาวอาจจะทำให้เสียโอกาสในการทำกำไรได้ ดังนั้นเราจะไม่เรียกผู้ที่อยู่ในตลาด Forex ว่านักลงทุน แต่จะเรียกว่านักเทรด ตลาด Forex จะเน้นการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินเพื่อทำกำไร และในบางครั้งอาจจะใช้เครื่องมือ leverage เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายแต่ละครั้ง
นักเทรด Forex จะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในตลาดทุนอื่นๆ มาก่อนแล้วและเรียนรู้เทคนิคการอ่านกราฟสำหรับการลงทุน อีกทั้งยังสามารถติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั่วและสามารถจับใจความข่าวสารดังกล่าวได้ว่าจะส่งผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ
แม้จะบอกว่านักลงทุนระยะยาวไม่เหมาะกับตลาด Forex แต่ก็อาจจะมีข้อยกเว้นอยู่บ้างก็คือสกุลเงินดอลลาร์ (U.S Dollar) ซึ่งเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก มูลค่าของดอลลาร์แม้จะไม่ผันผวนรุนแรง แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะปลอดภัยเมื่อเทียบกับการถือสกุลเงินอื่นๆ ในระยะเวลายาวนาน

เครื่องมือที่นักเทรด Forex นิยมใช้ในการทำกำไรในตลาดได้มากขึ้น
ข้อจำกัดหนึ่งของการเทรด Forex คือค่าเงินต่างๆ จะมีความผันผวนในระดับต่ำ เครื่องมือในช่วยในการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจึงได้รับความนิยมในหมู่นักเทรด Forex โดยเครื่องมือที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในการเทรด Forex ก็คือ Leverage หรือก็คือการนำเงินจำนวนหนึ่งเป็นหลักค้ำประกันเพื่อกู้ยืมเงินจำนวนมากกว่าจากโบรกเกอร์มาทำการเทรด
อย่างไรก็ตาม การ Leverage จะมีหลายอัตรา ยิ่งมีคูณมากก็ยิ่งได้มาก แต่ก็ยิ่งเสี่ยง (เสีย มาก) มากขึ้นเช่นกัน การเทรดด้วย Leverage ในอัตราที่สูงจนเกินไปก็อาจจะทำให้นักเทรดถูกริบเงินค้ำที่วางเอาไว้หากการเทรดไม่เป็นไปตามแผน ดังนั้นจึงควรคำนวณการอัตรา leverage ให้ดี
ด้วยความที่ Forex ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนระยะยาว ก่อนจะเข้าตลาด Forex นักเทรดควรจะมีประสบการณ์ในตลาดหลักทรัพย์อื่นๆมาก่อน และควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์อื่นๆมาบ้างแล้ว เพื่อจะได้อยู่ในตลาด Forex ได้อย่างปลอดภัย หรือถ้านักลงทุนยังไม่เข้าใจว่า เทรด Forex ยังไง ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน