DW คืออะไร ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ DW สำหรับมือใหม่

DW คืออะไร

DW คืออะไร ? DW ถือว่าเป็นอีกสินค้าการลงทุนหนึ่งที่สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดหุ้นได้อย่างมีอิสระและทางเลือกมากขึ้น มือใหม่ก็สามารถเล่นได้

DW (Derivative Warrant) เป็นตราสารอนุพันธ์หรือชื่อเต็มว่าใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ที่จะเคลื่อนไหวตามราคาของหุ้นที่อ้างอิง ในประเทศไทย เราสามารถซื้อขาย DW ได้จากกระดานตลาดหลักทรัพย์ (SET) สามารถซื้อขายได้ง่ายได้ไม่ต่างจากหุ้นปกติตัวอื่นๆ

DW คืออะไร? ประเภทของหุ้น DW มีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน

  1. Call DW (C)ก็คือสิทธิ์ในการซื้อหุ้นอ้างอิงและซื้อขายทำกำไรตามค่าของ Put DW ที่จะขึ้นและลงตามหุ้นที่อ้างอิง.
  2. Put DW (P) ก็คือสิทธิ์ในการซื้อหุ้นอ้างอิงและซื้อขายทำกำไรตามค่าของ Put DW ที่จะขึ้นและลงแปรผันกับหุ้นที่อ้างอิง หรือจะเท่ากับการขาย Short (Short selling)

ดังนั้นหากเราคาดการณ์ว่าราคาของหุ้นที่พิจารณาเก็งกำไรอยู่จะขึ้น เราอาจจะเลือกซื้อ DW แบบ Call DW (C) หรือหากมองว่าหุ้นตัวนั้นจะลง เราอาจจะเลือกซื้อแบบ Put DW (P) เพื่อทำกำไรขาลงนั่นเอง

DW อ้างอิงสินทรัพย์ 3 ประเภท

  1. ดัชนีหุ้นไทย เช่น SET50 และ SET100 โดยราคาจะไม่อิงกับดัชนีที่อ้างอิงโดยตรงแต่จะอ้างกับสัญญาประเภท Futures บนกระดาน TFEX แทนเนื่องจากมีสภาพคล่องมากกว่าและสะท้อนแรงซื้อและขายจากนักลงทุนได้ดีกว่า
  2. หุ้นไทย เช่น หุ้นที่อยู่ในกลุ่มดัชนี SET ดัชนี SET50  ดัชนี SET100 ดัชนี SETHD  รวมถึงดัชนีราคากลุ่มอุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจ
  3. ดัชนีหุ้นต่างประเทศ ที่ได้รับความนิยมก็จะมี ดัชนี HIS ของฮ่องกง ดัชนี S&P 500 Index (SPX) และดัชนีดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา
DW คืออะไร

ประเภทสองสิทธิ

ในส่วนของสิทธิก็สามารถแบ่งออกด้วยกันเป็น 2 ประเภทก็คือ DW (Call DW) ซึ่งจะสามารถถือสิทธิได้ทั้ง Call กินกำไรขาขึ้นและ Put เพื่อกินกำไรขาลงของสินทรัพย์ ส่วนสิทธิอีกประเภทหนึ่งคือ Warrant ซึ่งจะซื้อสิทธิแบบ Call ได้อย่างเดียวเท่านั้น

วิธีการอ่านสัญลักษณ์ DW

สัญลักษณ์ของ DW จะมีวิธีการอ่านแบบเฉพาะตัว โดยสัญลักษณ์ของ DW จำนวน 1 ตัวจะบอกกลุ่มดัชนีของหุ้น หมายเลขผู้ออก สิทธิซื้อแบบ Call DW (C) หรือ Put DW (P) ปีและเดือนที่หุ้นจะหมดอายุและรุ่นของหุ้น DW (A-Z) ยกตัวอย่าง SET5013C2306G SET5013C2306E หรือ HSI28C2305H

เราจะเห็นว่า DW จะมีผู้ออกหลักทรัพย์รายต่างๆ หรือที่เรียกว่าโบรกเกอร์ เป็นผู้ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวขึ้นมาเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนในการสร้างผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยง ซึ่งผู้ออกหลักทรัพย์นี้เองก็เป็นปัจจัยที่นักลงทุนใช้พิจารณาในการเลือกซื้อ DW คือควรจะเลือก DW จากผู้ออกหลักทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือ

อะไรคืออัตราทดของ DW ข้อที่ควรรู้เพื่อเพิ่มกำไร

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ DW แตกต่างจากหุ้นปกติก็คือ DW จะมีอัตราทดหรือ Effective Gearing โดยอัตราทดจะแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคา DW เป็น % เมื่อเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่ถูกอ้างอิงที่ 1% ยกตัวอย่างเช่น ราคาของ DW ที่มีอัตราทดสองเท่า เมื่อหุ้นที่อ้างอิงราคาขยับ 5% ก็เท่ากับราคาของ DW จะขยับที่ 10%

ค่าเสื่อม Time Decay ทำให้ DW ไม่เหมาะกับการถือยาว

นอกจากอัตราทดแล้ว เรื่องของค่าเสื่อมจอง DW ก็เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ควรรู้ไว้ก่อนที่จะเริ่มการเทรด DW ค่าเสื่อมก็คือ ค่าที่บอกว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1 วัน ราคา DW จะลดลงกี่ % โดยหุ้น DW ที่มีค่าเสื่อมเวลาสูงๆ จะเป็นหุ้นที่ใกล้หมดอายุ

ด้วยเงื่อนไขของอัตราทดดังกล่าวจึงทำให้การลงทุนใน DW เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะสั้นและได้กำไรจำนวนมากแม้ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าปกติ ไม่เหมาะกับผู้ที่ถนัดการลงทุนระยะยาวเท่าไหร่นัก ทำไมถึงไม่ควรถือ DW จนหมดอายุ

DW คืออะไร

ค่าความอ่อนไหว (Sensitivity) ค่าที่บอกการเคลื่อนไหวของราคา DW

ค่าความอ่อนไหวจะเป็นค่าที่บอกว่าราคา DW จะเปลี่ยนแปลงกี่ช่องเมื่อมูลค่าของหุ้นอ้างอิงเปลี่ยนแปลง 1 ช่อง โดยปกติแล้วนักเทรดควรดูทั้งอัตราทดและค่าความอ่อนไหวร่วมกัน ยิ่งค่าทั้งสองสูงก็หมายความว่าราคาจะมีการเหวี่ยงมากขึ้นแม้การเคลื่อนไหวของมูลค่าหุ้นที่อ้างอิงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

ความเสี่ยงในการลงทุน DW

  • ราคาที่ผันผวน ด้วยความที่มีอัตราทดและค่าความอ่อนไหวจึงทำให้ราคามีความผันผวนมากกว่าราคาหุ้นที่อ้างอิง อาจจะทำให้ขาดทุนได้
  • มีอายุจำกัด อายุของ DW จะแสดงใส่ช่องของ Time Decay การที่ DW มีกำหนดเวลาหมดอายุจะทำให้ให้สามารถถือยาวได้

 DW ที่ได้รับความนิยม

  • หุ้น DW SET50

จะเป็น DW ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งประเภท Call และ Put ข้อดีของ DW ที่อ้างอิงดัชนีหุ้น SET50 คือมีสภาพคล่องสูงและนักลงทุนไม่จำเป็นต้องนำปัจจัยความผันผวนทางด้านค่าเงินมาวิเคราะห์กลยุทธิ์การลงทุน

  • หุ้น HSI DW

หุ้น DW ต่างประเทศที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน DW ดังกล่าวจะอ้างอิงดัชนีหลักทรัพย์ฮั่งเส็งของฮ่องกง เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ประกอบด้วยหุ้น 50 ตัวจากธุรกิจขนาดใหญ่ต่างๆ ของฮ่องกงทั้งในด้านการเงิน อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรม การค้าและสาธารณูปโภค

DW อาจจะไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่คุ้นเคยนักเพราะเป็นสินค้าการลงทุนจะเหมาะกับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง มีความผันผวนมากกว่าหุ้นปกติ จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากกว่า อย่างไรก็ตาม หากศึกษาการเทรด DW แบบมืออาชีพ และนำมาใช้ลงทุนอย่างถูกต้อง ก็จะสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรได้ในทุกสภาพตลาด