หุ้นคืออะไร ? มาทำความรู้จักกับ “หุ้น” สินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักลงทุน รวมถึงหลักการสำหรับมือใหม่หัดเล่นหุ้นที่ไม่ยากและซับซ้อนอย่างที่คิด
หุ้นคืออะไร
หุ้น (stock) คือตราสารที่ออกโดยกิจการใดกิจการหนึ่ง มีจุดประสงค์เพื่อการระดมทุนเพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจ ผู้ที่ทำการซื้อหุ้นจะกลายเป็นผู้ถือหุ้น (shareholder) ซึ่งมีสถานะเป็นหนึ่งในเจ้าของกิจการ สามารถได้รับผลประโยชน์จากผลประกอบการของกิจการดังกล่าว ในทางกลับกัน หากผลประกอบการของกิจการนั้นๆ ไม่ดีนัก ผู้ถือหุ้นอาจจะต้องยอมรับความเสี่ยงขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้น หุ้นยังสามารถบอกได้ถึงสัดส่วนของการเป็นเจ้าของบริษัทได้อีกด้วย โดยคิดสัดส่วนเป็น % ของทรัพย์สินทั้งหมดที่ใช้ดำเนินกิจการ ผู้ที่ถือหุ้นมากที่สุดก็จะยิ่งมีอำนาจในการบริหารกิจการมากที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน หุ้นไทยเล่นยังไง?
ประเภทของหุ้น
โดยพื้นฐานแล้วหุ้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
- หุ้นสามัญ (common stock) คือตราสารที่ออกโดยบริษัทมหาชนจำกัด (บมจ.) โดยมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อมาประกอบกิจการ ผู้ที่ถือหุ้นสามัญดังกล่าวจะมีสถานะเป็นเจ้าของร่วมของบริษัท ได้รับสิทธิในการออกเสียงลงมติต่างๆ ของบริษัทเมื่อมีการประชุมผู้ถือหุ้น ตามสัดส่วนของหุ้นที่ถืออยู่
ข้อดีของการถือหุ้นสามัญก็คือจะได้รับสิทธิในการซื้อหุ้นใหม่เมื่อบริษัทมีการเพิ่มทุนและจะได้รับเงินปันผลตามผลกำไรของบริษัท อย่างไรก็ตาม หากปีใดที่ผลประกอบการของบริษัทไม่ดีก็อาจจะทำให้ได้รับเงินปันผลที่น้อยลงด้วยเช่นกัน
- หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) ตราสารที่ออกโดยบริษัทมหาชนจำกัด (บมจ.) เช่นเดียวกับหุ้นสามัญ แต่ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับสิทธิในการออกเสียงลงมติใดๆ ของบริษัท
อย่างไรก็ตาม การถือหุ้นบุริมสิทธิก็มีข้อดีที่ผู้ที่ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลในอัตราที่คงที่ไม่ว่าผลประกอบการของบริษัทจะเป็นอย่างไรและหากบริษัทมีการยกเลิกการประกอบกิจการ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้รับเงินคืนก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ

วิธีการสร้างรายได้และผลกำไรในตลาดหุ้น
มาถึงเรื่องที่ผู้ที่ต้องการที่จะลงทุนในหุ้นสนใจที่สุดนั้นก็คือวิธีการสร้างรายได้จากหุ้น วิธีการสร้างรายได้จากหุ้นมีด้วยกัน 2 วิธีหลักด้วยกัน
- กำไรส่วนต่าง (Capital gain) คือรายได้ที่นักลงทุนจะได้รับเมื่อทำการขายหุ้นในราคาที่มากกว่าตอนที่ซื้อหุ้น การที่นักลงทุนจะได้รับกำไรจากส่วนนี้ก็คือจะต้องทำการประเมินราคาของหุ้นเพื่อที่จะสามารถซื้อหุ้นนั้นๆ ในราคาที่ถูกและทำการขายในช่วงที่ราคาของหุ้นพุ่งสูงขึ้น นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้จากการทำกำไรส่วนต่างจะต้องมีความรู้ในการประเมินราคาของตลาดและสถานการณ์ของหุ้นเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้กำไรในส่วนนี้ให้มากที่สุด
- เงินปันผล (Dividend) ก็คือเงินปันผลกำไรของบริษัทคืนกับผู้ถือหุ้น โดยผู้ถือหุ้นจะได้เงินปันผลเป็นงวดๆ ตามนโยบายที่บริษัทกำหนด เช่น บางบริษัทอาจจะกำหนดนโยบายเงินปันผลคงที่ โดยจ่าย 1 บาทต่อหุ้น ในทุกๆ งวดเงินปันผลหรือบางบริษัทอาจจะกำหนดนโยบายอัตรปันผลคงที่ โดยจ่ายปันผล 20% ของกำไรสุทธิ ในทุกๆ งวดปันผล

ข้อดีของการลงทุนในหุ้น
การลงทุนในหุ้นถือว่าเป็นการสร้างรายได้แบบ passive income ก็คือเป็นการให้เงินที่เราหามาได้ทำงานแทนเราในการสร้างผลตอบแทนให้งอกเงยได้ทั้งแบบกำไรส่วนต่าง (Capital gain) และ เงินปันผล (Dividend) นอกจากนั้น หุ้นยังถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องในการแปลงเป็นเงินสดสูง สามารถซื้อขายได้อย่างรวดเร็วตามเวลาทำการชองตลาด
นอกจากนั้น การลงทุนในหุ้นจะทำให้ผู้ที่ถือหุ้นมีสถานะเหมือนเป็นเจ้าของกิจการโดยที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนหรือลงแรงในการสร้างกิจการขึ้นมาตั้งแต่แรก และมีสิทธิในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานของบริษัทในกรณีที่ถือหุ้นแบบสามัญ
ข้อควรระวังในการลงทุนในหุ้น
การลงทุนในหุ้นนั้นมีความเสี่ยงในเรื่องของราคาของหุ้นที่สามารถผกผันได้ตามแนวโน้มของผลประกอบการของบริษัท รวมถึงความมั่นคงของบริษัทด้วย
ราคาของหุ้นในตลาดจะถูกกำหนดจากกลไกอุปสงค์และอุปทานของนักลงทุนซึ่งจะสะท้อนมาจากความคาดหวังในมูลค่าของหุ้นในอนาคต หากหุ้นนั้นมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดี มีทีมบริหารที่มากประสบการณ์ หุ้นตัวนั้นย่อมมีแนวโน้มว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต ส่งผลให้มีความต้องการที่สูงในตลาดและจะทำให้ราคาของหุ้นสูงขึ้นไปด้วยนั้นเอง
แม้จะมีหน่วยงานที่คุ้มครองนักลงทุน แต่นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจในลักษณะของหุ้นก่อนทำการซื้อขายทุกครั้ง เพื่อป้องกันความผิดพลาดและความเสี่ยงใดๆ ก็ตามที่อาจจะเกิดขึ้นได้
หุ้นถือเป็นสินทรัพย์อันดับแรกๆ ที่ทุกคนจะนึกถึงเมื่อพูดถึงเรื่องของการลงทุน การลงทุนในหุ้นนั้นเป็นหนึ่งในวิธีการที่มีการพูดถึงมากที่สุดในการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้แบบ Passive income ได้อย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นก็มีความเสี่ยงอยู่ นักลงทุนจึงควรศึกษาและประเมินความเสี่ยงที่รับได้ก่อนเริ่มลงทุนทุกครั้งและควรเลือกซื้อหุ้นของบริษัทที่ศึกษาตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่าจะเติบโตในระยะยาวจริงๆ